น.ส.พิภาวิน สดประเสริฐ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า วีซ่าได้จัดทำแผนโรดแม็พด้านความปลอดภัยโดยร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับการชำระเงินในประเทศไทย มี 6 ด้านหลัก ได้แก่ การขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีเพิ่มเสริมสร้างความปลอดภัย, สร้างความปลอดภัยในการชำระเงินรูปแบบดิจิทัล, เสริมสร้างความความยืดหยุ่นของระบบนิเวศการชำระเงิน, ป้องกันการโจมตีแบบสุ่ม, ยกระดับความพร้อมของผู้เล่นในระบบนิเวศให้รับมือกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ และป้องกันผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจจากการเป็นเหยื่อของผู้ฉ้อโกง
ทั้งนี้วีซ่ามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกกว่า 1,000 คน ที่ใช้เวลาตลอด 24 ชั่วโมง ในการตรวจจับ ป้องกันการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงินเป็นล้านๆ รายการในทุกๆ วัน และวีซ่ายังใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอที่สามารถระบุรูปแบบการฉ้อโกงที่ไม่สามารถตรวจจับได้โดยมนุษย์ และเตือนให้สถาบันการเงิน และร้านค้าทราบ ก่อนที่ธุรกรรมฉ้อโกงจะเกิดขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ วีซ่าได้พัฒนาความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยีที่ตรวจสอบข้อมูล ลดการฉ้อโกง และป้องกันระบบนิเวศทางการชำระเงิน ใน 5 ปีที่ผ่านมา วีซ่าได้ลงทุนกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการรับมือกับการฉ้อโกงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
น.ส.พิภาวิน กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้ชีวิตด้วยดิจิทัลเพิ่มขึ้น ดังนั้นการใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ต่างได้รับความนิยมขึ้น เช่น การใช้ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า และการให้ข้อมูลที่ใช้ยืนยันตัวตนในรูปแบบดิจิทัลเมื่อทำกิจกรรมออนไลน์ และกว่า 75% ของผู้บริโภครู้จักการชำระเงินด้วยไบโอเมตริกซ์ โดยมากกว่าครึ่ง 53% เชื่อว่าเป็นวิธีการชำระเงินที่ปลอดภัยกว่า
“เรื่องความปลอดภัยถือเป็นสิ่งที่ซีซ่าให้ความสำคัญสูงสุด และมีการลงทุนมหาศาลเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพื่อให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจมั่นใจว่าจะได้รับการปกป้องในทุกๆ ธุรกรรมการชำระเงินผ่านเครือข่ายของวีซ่า ในปัจจุบันเมื่อภูมิทัศน์ทางการชำระเงินเปลี่ยนแปลง ภัยคุกคามต่างๆ ก็มีการปรับตัวตามด้วยเช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เสนอโรดแม็พด้านความปลอดภัยที่ระบุถึงมาตรการและขั้นตอนต่างๆ ที่วีซ่าจะร่วมทำงานกับพันธมิตร เพื่อเดินหน้าทำให้ระบบนิเวศทางการชำระเงินของประเทศไทยปลอดภัยยิ่งขึ้น”
